วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

How to : เบลนภาพด้วย PS

วันนี้ขอออกนอกเรื่องขนมปังซักเล็กน้อยค่ะ
มีช่อง Live Steam เป็นของตัวเองแล้ว > <
ก็เลย อยากจะสอนอะไรที่ตัวเองพอจะทำได้
คิดไปคิดมาก็นี่ละค่ะ "การเบลนภาพ"
อยากรู้ว่ามีขั้นตอนอะไรยังไง รับชมได้เลย!~

 ภาพต้นฉบับ



 Blend เสร็จแล้ว!


 HOW TO : Blend ภาพด้วยโปรแกรม Photoshop


วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

All about Bread

คราวนี้จัดทำมาเป็นคลิปค่ะ ~
ในคลิปจะแนะนำเป็นประเภทของขนมปังแต่ละอย่า
พร้อมทั้งสีภาพประกอบสวยๆ ให้ทุกคนได้ดูกันด้วย
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปชมกันเลย!

All about Bread  Bread Story
คลิปนี้จัดทำขึ้นเพื่อวิชา MJR4201 มหาวิยาลัยรามคำแหง
Multimedia Junalism

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

ศิลปะสวยๆ บนขนมปัง


BREAD OF ART!
ขนมปังจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาเป็นสิ่งอื่นๆ ได้อย่างไร
และจะสวยจนไม่กล้าทานรึเปล่า ไปชมกันเลยค่ะ!










แคลอรี่ในขนมปัง!

ตารางแสดงปริมาณ แคลอรี่ในขนมปัง
สาวๆ ที่กำลังเข้าคอร์ดออกกำลังกายเพื่อรีดไขมันส่วนเกินทิ้งไป คงจะต้องทำควบคู่กับการควบคุมอาหารจึงจะ ได้ผลเร็ว และอาหารที่คุณเลือกทานแต่ละอย่างนั้น มีปริมาณแคลอรี่ไม่เท่ากัน ยิ่งคุณทานอาหารที่มีแคลอรี่มากๆ คุณก็ต้องออกกำลังกายเผาผลาญเจ้าแคลอรี่อย่างหนัก ฉะนั้น หากคุณพิถีพิถันในการเลือกทานอาหารที่มีแคลอรี่ ต่ำ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การไดเอ็ตก็จะได้ผลแน่นอน

ตารางแสดงปริมาณแคลอรี่ในอาหารประเภทต่างๆ
เชิญเลือกอาหารโปรดของคุณค่ะ...

ขนมปัง           ปริมาณ           แคลอรี่ 
ขาว                  1 ชิ้น                 70 
โฮลวีท             1 ชิ้น                 65 
ก้อนกลม(โรลล์) 1 ก้อน               90 
แครกเกอร์          2 แผ่น              54

สูตรเบเกอรี่ : วิธีทำเค้กป๊อปง่ายๆ

บทความในหน้านี้ถูกอัพผ่าน Gmail : icandy.nana@gmail.com



 ส่วนผสม สำหรับ 10-12 ชิ้น
- แยมโรลหรือสปันจ์เค้กรสตามชอบ 400 กรัม
- Frosting รสตามชอบ หรือ นูเทลล่า3/4 ถ้วย
- นมข้นจืด ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ไวท์ช็อกโกแลต แพ๊ค (หรือช็อกโกแลตอื่นๆตามชอบ)
- สีผสมอาหารตามชอบ
- สำหรับตกแต่ง : เกล็ดน้ำตาลหลากสี ช็อกโกแลต หรืออื่นๆตามแต่ไอเดีย
- ไม้เสียบเค้กป๊อปโลลีป๊อป

 วิธีทำ
1. นำแยมโรลหรือสปันจ์เค้กมาขยำหรือนำใส่ food processor ให้เนื้อเค้กร่วนๆ 
2. เติมนมข้นจืด และ Frosting รสตามชอบหรือนูเทลล่า 3/4 ถ้วย
3. ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ แล้วนำแช่ตู้เย็น
4. ระหว่างที่นำเค้กแช่ตู้เย็น เตรียมของสำหรับแต่งเค้กป๊อป โดยนำช็อกโกแลตมาละลายก่อนบางส่วนเพื่อเป็นตัวยึดระหว่างไม้เสียบกับตัวเค้ก โดยนำไม้เสียบจิ้มตัวเค้กให้เป็นรู แล้วนำไม้จุ่มลงในช็อกโกแลตแล้วนำกลับมาเสียบลงบนรูที่ทำไว้ แล้วนำตัวเค้กกลับไปแช่เย็นต่อ
5. นำสีผสมอาหารหยดลงบนช็อกโกแลตให้มีสีสันสวยงาม แล้วนำเค้กป๊อปที่แช่เย็นกลับมาจุ่มลงบนช็อกโกแลตให้ทั่วทั้งชิ้น ตกแต่งเค้กป๊อปตามชอบ แช่เย็นต่ออีกสักพัก พร้อมเสริฟค่ะ


 วิดีโอสอนทำเค้กป๊อป



ขนมหวานชื่อดังจากทั่วโลก

เพื่อเป็นการเติมความหวานให้กับชีวิต วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำของหวานน่ารับประทานในหลายๆ ประเทศมาให้เพื่อนๆ ได้เติมความหวานกันอีกหน่อย หวังว่าคงจะถูกอกถูกใจคอขนมหวานทุกท่านนะ


ข้าวเหนียวมะม่วง
ขนมหวานแบบไทยๆ ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่ามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยน้ำกะทิ ฟังแล้วชวนน้ำลายสอเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับความนิยมจากทั้งชาวสยามและชาวต่างชาติ ทั้งยังสามารถหาลิ้มลองได้ทั้งที่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป


แครมบรูเล่ ( Creme Brulee)
แม้ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างว่าพวกเขาคือต้นตำรับผู้คิดค้นขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดจากอังกฤษ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับใต้หอไอเฟลที่ประดับด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส


นาไนโม บาร์ ( Nanaimo Bars)
แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน ? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าวก็มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ


แอปเปิ้ล พาย ( Apple Pie )
เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน


แบล็คฟอเรสท์เค้ก ( BlackForestCake )
ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมนี (ภายหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยฝีมือของช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน) และทุกวันนี้เป็นทื่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในของโปรดของเราเช่นกัน


ฮาโล ฮาโล ( Halo Halo)
จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา


กุหลับ จามาน ( Gulab Jamun)
ก้อนขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้


ไดฟุกุ ( Daifuku )
ขนมเจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่) โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น


บาคลาวา ( Baklava)
ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัด เพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจาก จักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย


ทีรามิสุ ( Tiramisu )
เค้กชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาดจากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร เหมาะจะเป็นของหวานรับวันวาเลนไทน์โดยแท้

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของขนมปัง



ประโยชน์ของขนมปัง
แม้คนไทยเราจะรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ก็มีหลายบ้านที่นิยมบริโภคอาหารจำพวก ขนมปังชนิดต่างๆ เป็นประจำ เพราะนอกจากจะ หาซื้อได้ง่าย รับประทานได้ทันทีแบบไม่ต้องมีพธีรีตรอง แล้ว เรายังสามารถ ดัดแปลงเป็นอาหารได้หลายชนิดอีกด้วย หลายคนอาจเห็นว่าขนมปังเป็นอาหารที่ไม่ให้ประโยชน์กับร่างกายนัก เพราะมีแต่ส่วนประกอบของแป้ง ทานเข้าไปมากๆก็มีแต่จะทำให้รูปร่างขยายออกด้านข้างเสียเปล่าๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถเลือกอร่อยกับขนมปังแบบมากด้วยคุณค่าได้ เพียงแต่รู้จักเลือกชนิดของขนมปังให้เหมาะสมเท่านั้น นอกจากขนมปังสีขาวจั๊วที่คุณเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อแล้ว ถ้าสังเกตุให้ดี ที่ชั้นซูเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆคุณก็จะเห็นขนมปังหน้าตาแปลกๆอีกหลายชนิด วันนี้เรามาทำความรู้จักกับขนมปังเพื่อสุขภาพเหล่านี้กันดีกว่าค่ะ


ขนมปังโฮลวีต (Whole Wheat Bread) 
ขนมปังชนิดนี้ทำมาจาก ข้าวสาลีที่ไม่ขัดขาวล้วนๆ ดังนั้นจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดจึงยังอยู่ครบ การรับประทานขนมปังชนิดนี้จึงเปรียบได้กับการรับประทาน ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง















ขนมปังผสมวีตเบอร์รี่และน้ำผึ้ง (Sliced Honey Wheatberry Bread) 
มีส่วนผสมของธัญพืช เช่น รำข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวสาลี แทรกอยู่ในเนื้อขนมปังด้วย และยังได้ลิ้มรสหวานจากน้ำผึ้งและน้ำลูกเกดที่ผสมอยู่ด้วย ขนมปังชนิดนี้จึงอุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหาร

















ขนมปังผสมข้าวโอ๊ตและอัลมอนด์ (Sliced Toasted Almond & Oat Bread ) 
ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่มี ไฟเบอร์สูงมาก จึงชวยป้องกันอาการท้องผูกได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและไนอะซินที่ช่วยให้ความจำดี ส่วน อัลมอนด์ นั้นก็ประกอบไปด้วย สารอาหารต่างๆที่สามารถ ต้านอนุมูลอิสระ และยังมี แคลลอรี่ ต่ำอีกด้วย




















ขนมปังมัลติเกรน (Sliced Multigrain Bread) 
หรือเรียกอีกอย่างว่า ขนมปังธัญชาติผสม เป็นขนมปังเพื่อสุขภาพจริงๆ เพราะประกอบด้วยเมล็ดธัญพืชมากมายหลายชนิดผสมอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น รำข้าวสาลี จมูกข้าวสาลี เมล็ดฝ้าย ข้าวฟ่าง ข้าวโพดบด ข้าวบาร์เลย์ ต้นอ่อน อัลฟาฟา เมล็ดทานตะวัน แป้งถั่วเหลือง เมล็ดงา และธัญพืชอื่นๆ ขนมปังชนิดนี้จึงมากด้วยคุณประโยชน์จากธัญพืชต่างๆ

ที่มาของขนมปัง



ขนมปังนั้น มีที่มาอย่างไรกัน?
ขนมปังเป็นอาหารที่มีความเป็นมายาวนาน โดยสันนิษฐานจากหลักฐานภาพเขียนบนสุสานในอียิปต์ 
รูปชายสามคนกำลังมอบขนมปังรูปทรงแบนๆ (aiysh = ขนมปังแบน ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสี) ให้กับพระเจ้า

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ขนมปังฟูในเวลาต่อมานั้น สันนิษฐานกันว่าคงเป็นเพราะน้ำในแม่น้ำไนล์ที่มีคุณสมบัติคล้ายยีสต์ 
หรือเป็นเหตุบังเอิญของสภาพทางธรรมชาติ ซึ่งทำให้เกิดการหมัก และวิธีทำให้สุก

ขนมปังเริ่มเป็นที่นิยมและปรุงแต่งมากขึ้นในยุคของราชวงศ์ทิวดอร์แห่งอังกฤษ เพราะคนร่ำรวยทั้งหลายใช้ขนมปังเป็นอาหารลดน้ำหนัก จึงเกิดการผลิตขนมปัง รวมถึงร้านขนมปัง และคนทำขนมปังฝีมือดีขึ้นมากมาย ซึ่งภายหลังก็มีวิธีพัฒนาการอบ จากการวางบนก้อนหินร้อน แล้วเริ่มนำเอากระทะมาครอบด้านบนขนม จนพัฒนามาเป็นเตาอบด้วยฟืน จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน
ทุกวันนี้มีร้านขนมปังมากมาย แถมยังมีหลายชนิด ทั้งขนมปังเนื้อนิ่มสไตล์เอเชีย หรือขนมปังเนื้อไม่นิ่มมากนักตามแบบยุโรป ซึ่งขนมปังที่นิยมและควรทำความรู้จักเอาไว้มีดังนี้
Toast คือขนมปังสไลซ์เป็นแผ่นที่นิยมนำไปปิ้ง มีให้เลือกทั้งที่เป็นสี่เหลี่ยมและหัวกะโหลก มีทั้งเนื้อนุ่มสีขาวและผสมธัญพืชต่างๆ ขนมปังชนิดนี้จัดเป็นขนมปังสไตล์อังกฤษ โทสต์ที่ดีจำแนกตามการใช้งาน หากนำไปปิ้งทำเป็นแซนด์วิช เนื้อควรโปร่ง แต่ถ้ากินเปล่าๆ ควรมีเนื้อเหนียวนุ่ม ละเอียด ไม่แห้ง
Baugette หรือขนมปังฝรั่งเศส ทำจากแป้ง เกลือ น้ำ และยีสต์ บาแกตต์ที่ดีต้องใหม่ๆจากเตา ผิวด้านนอกกรอบ เนื้อด้านในนุ่ม มีกลิ่นหมักและรสเปรี้ยวนิดๆ
Croissant เป็นขนมปังของฝรั่งเศสเช่นกัน จัดเป็นขนมปังประเภทเพสตรี้ คือซ้อนเป็นชั้นๆ ครัวซองค์อร่อยผิวด้านนอกต้องกรอบนิดๆ ด้านในนุ่มและหอมเนย
Facaccia คือขนมปังอิตาลี รูปร่างเป็นแผ่นกลม นิยมใส่สมุนไพรต่างๆ หรือผลมะกอกลงไป และกินคู่กับน้ำมันมะกอก ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของพิซซ่า
Pumpernickel เป็นขนมปังเยอรมัน เนื้อต้องแน่น นัก สีน้ำตาลเข้ม เพราะใช้แป้งข้าวไรซ์เกือบ 100% การผสมผสมธัญพืชมากมายบวกกับความหนักแน่นของเนื้อขนมปัง ถือเป็นเอกลักษณ์ของขนมปังเยอรมัน ซึ่งนิยมตั้งชื่อตามธัญพืชที่ใส่ลงไปอีกด้วย