ขนมปังนั้น มีที่มาอย่างไรกัน?
ขนมปังเป็นอาหารที่มีความเป็นมายาวนาน โดยสันนิษฐานจากหลักฐานภาพเขียนบนสุสานในอียิปต์
รูปชายสามคนกำลังมอบขนมปังรูปทรงแบนๆ (aiysh = ขนมปังแบน ทำจากข้าวสาลีไม่ขัดสี) ให้กับพระเจ้า
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ขนมปังฟูในเวลาต่อมานั้น สันนิษฐานกันว่าคงเป็นเพราะน้ำในแม่น้ำไนล์ที่มีคุณสมบัติคล้ายยีสต์
หรือเป็นเหตุบังเอิญของสภาพทางธรรมชาติ ซึ่งทำให้เกิดการหมัก และวิธีทำให้สุก
ขนมปังเริ่มเป็นที่นิยมและปรุงแต่งมากขึ้นในยุคของราชวงศ์ทิวดอร์แห่งอังกฤษ เพราะคนร่ำรวยทั้งหลายใช้ขนมปังเป็นอาหารลดน้ำหนัก จึงเกิดการผลิตขนมปัง รวมถึงร้านขนมปัง และคนทำขนมปังฝีมือดีขึ้นมากมาย ซึ่งภายหลังก็มีวิธีพัฒนาการอบ จากการวางบนก้อนหินร้อน แล้วเริ่มนำเอากระทะมาครอบด้านบนขนม จนพัฒนามาเป็นเตาอบด้วยฟืน จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน
ทุกวันนี้มีร้านขนมปังมากมาย แถมยังมีหลายชนิด ทั้งขนมปังเนื้อนิ่มสไตล์เอเชีย หรือขนมปังเนื้อไม่นิ่มมากนักตามแบบยุโรป ซึ่งขนมปังที่นิยมและควรทำความรู้จักเอาไว้มีดังนี้
Toast คือขนมปังสไลซ์เป็นแผ่นที่นิยมนำไปปิ้ง มีให้เลือกทั้งที่เป็นสี่เหลี่ยมและหัวกะโหลก มีทั้งเนื้อนุ่มสีขาวและผสมธัญพืชต่างๆ ขนมปังชนิดนี้จัดเป็นขนมปังสไตล์อังกฤษ โทสต์ที่ดีจำแนกตามการใช้งาน หากนำไปปิ้งทำเป็นแซนด์วิช เนื้อควรโปร่ง แต่ถ้ากินเปล่าๆ ควรมีเนื้อเหนียวนุ่ม ละเอียด ไม่แห้ง
Baugette หรือขนมปังฝรั่งเศส ทำจากแป้ง เกลือ น้ำ และยีสต์ บาแกตต์ที่ดีต้องใหม่ๆจากเตา ผิวด้านนอกกรอบ เนื้อด้านในนุ่ม มีกลิ่นหมักและรสเปรี้ยวนิดๆ
Croissant เป็นขนมปังของฝรั่งเศสเช่นกัน จัดเป็นขนมปังประเภทเพสตรี้ คือซ้อนเป็นชั้นๆ ครัวซองค์อร่อยผิวด้านนอกต้องกรอบนิดๆ ด้านในนุ่มและหอมเนย
Facaccia คือขนมปังอิตาลี รูปร่างเป็นแผ่นกลม นิยมใส่สมุนไพรต่างๆ หรือผลมะกอกลงไป และกินคู่กับน้ำมันมะกอก ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของพิซซ่า
Pumpernickel เป็นขนมปังเยอรมัน เนื้อต้องแน่น นัก สีน้ำตาลเข้ม เพราะใช้แป้งข้าวไรซ์เกือบ 100% การผสมผสมธัญพืชมากมายบวกกับความหนักแน่นของเนื้อขนมปัง ถือเป็นเอกลักษณ์ของขนมปังเยอรมัน ซึ่งนิยมตั้งชื่อตามธัญพืชที่ใส่ลงไปอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น